เลิกพฤติกรรมเสี่ยง เป็นกรดไหลย้อน

โรคกรดไหลย้อน แค่เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างก็หายขาดได้ เราลองไปดูกันดีกว่าว่าพฤติกรรมใดบ้างที่ควรเลิก

พฤติกรรมที่ทำให้เกิดกรดไหลย้อน

  1. ทานอาหารมื้อเดียวทีละมากๆ
    อาหารคือตัวการทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อน โดยเฉพาะอาหารจำพวกบุฟเฟต์ซึ่งเป็นใบสั่งอย่างดีที่ทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อน เพราะท้องที่เต็มแน่นไปด้วยอาหารคือสาเหตุที่ทำให้วาล์วระหว่างกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร คลายตัวและส่งผลให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมาในหลอดอาหารได้ แต่ถ้าเราเปลี่ยนมากินมื้อเล็กๆ ตลอดทั้งวัน แทนการกินตามมื้อมาตรฐานอย่างมื้อเช้า, กลางวัน, เย็น จะสามารถลดการเกิดอาการกรดไหลย้อนได้  และอย่ารับประทานทานมื้อสุดท้ายดึกเกินไป เพราะการกินอาหารก่อนนอนก็สามารถทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้เช่นกัน
  2. เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
    แอลกอฮอลล์เป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดสำหรับคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อน โดยเฉพาะเมื่อดื่มมากจนเกินไปหรือดื่มเป็นประจำ เพราะแอลกอฮอลล์จะทำให้กล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนล่างคลายตัวซึ่งจะทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหารได้ ผลวิจัยพบว่าอัตราของผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนเพิ่มตามจำนวนเครื่องดื่มที่บริโภคต่อสัปดาห์ โดยผู้ที่ดื่มมากกว่า 7 ครั้งต่อสัปดาห์ มีแนวโน้มจะเป็นโรคกรดไหลย้อน รู้แบบนี้แล้ว หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันเถอะ
  3. สวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป
    การสวมเสื้อผ้าที่รัดรอบ บริเวณหน้าท้องส่วนกลางมากเกินไปก็ทำให้กระเพาะอาหารถูกกดและดันให้กรดในกระเพาะอาหารเข้าสู่หลอดอาหาร แม้ว่ากางเกงจะสามารถทำให้ดูดีได้มากแค่ไหน แต่ก็ไม่คุ้มค่าพอหากต้องแลกกับการเป็นโรคกรดไหลย้อน
  4. สูบบุหรี่
    รนอกจากการสูบบุหรี่จะทำลายหัวใจและเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดแล้ว ยังไปทำลายระบบการย่อยอาหารอีกด้วย เพราะนิโคติน และแอลกอฮอลล์ ทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนที่รุนแรงได้ โดยที่ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนล่างคลายตัว ซึ่งทำให้กรดในกระเพาะไหลขึ้นไปที่หลอดอาหาร

นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ยังทำให้เกลือน้ำดีย้ายจากลำไส้เล็กไปอยู่ในกระเพาะอาหาร และทำให้น้ำลายผลิตออกมาน้อยลง โดยหน้าที่หนึ่งของน้ำลายก็คือจะไปช่วยล้างกรดในกระเพาะอาหารให้ออกจากหลอดอาหาร ดังนั้น เมื่อน้ำลายผลิตออกมาน้อย กรดในหลอดอาหารจะไม่ถูกชะล้างออกไป ทำให้เสี่ยงเป็นโรคกรดไหลย้อนได้